ขายดินหินทราย ท่าทรายกนก

การฟื้นฟูสภาพพื้นที่ขุด ตัก และดูดทรายแม่น้

[:TH] การฟื้นฟูสภาพพื้นที่ขุด ตัก และดูดทรายแม่น้ำ การฟื้นฟูสภาพพื้นที่บริเวณแปลงดูดทรายที่ได้รับอนุญาต สามารถกระทำได้เพียงการปรับปรุงสภาพตลิ่งของลำน้ำให้คงสภาพเดิมตามธรรมชาติ โดยเฉพาะบริเวณท่าทราย นับเป็นกิจกรรมสำคัญที่ต้องเริ่มดำเนินการตั้งแต่ขั้นตอนของการเตรียมการ ต่อเนื่องไปจนถึงขั้นตอนการดำเนินงาน และเมื่อสิ้นสุดการดำเนินงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการขุด ตัก และดูดทราย และวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินตลอดจนทรัพยากรอื่น ๆ ให้สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง ประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ ดังนี้ ในขั้นตอนการเตรียมการขุด ตัก และดูดทราย จะต้องวางแผนการฟื้นฟูควบคู่ไปกับการป้องกันผลกระทบจากการทำทราย ดังนี้ การป้องกันการชะล้างพังทลายของดินบริเวณริมตลิ่งที่ได้ปรับสภาพเป็นท่าทราย ในลักษณะการป้องกันการชะล้างแบบร่องลึก ร่วมกับการปลูกพืชคลุมดินในส่วนที่เป็นขอบตลิ่ง ได้แก่ การปลูกหญ้าหรือพืชตระกูลถั่วในระยะแรก แล้วจึงปลูกไม้โตเร็วหรือพันธุ์ไม้ท้องถิ่นในภายหลัง จัดทำระบบระบายน้ำและถนน ให้เหมาะสมตามความลาดเอียงของสภาพภูมิประเทศ และ/หรือสอดคล้องเชื่อมโยงกับทางน้ำธรรมชาติ และโครงข่ายถนนบริเวณใกล้เคียง โดยมีทางระบายน้ำล้น (Spill Way) หรือท่อระบายน้ำควบคุม กำหนดแผนผังหรือแบบแปลนแสดงอาณาบริเวณทั้งหมดของสถานประกอบการขุด ตัก และดูดทราย รวมทั้งบริเวณใกล้เคียง รายละเอียดเกี่ยวกับแบบแปลนทั้งหมดของบ่อทราย และสถานประกอบการที่ใช้สำหรับกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การล้างทำความสะอาดและคัดแยกขนาดทราย เป็นต้น กำหนดแบบแปลนการติดตั้งเครื่องจักร รายละเอียดเครื่องจักร และการเลือกสรรเครื่องจักรกล อุปกรณ์ หรือเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการขุด ตัก และดูดทราย ที่มีความสัมพันธ์กับปริมาณของทรายและคุณสมบัติของทรายในพื้นที่ ตลอดจนผลตอบแทนทางด้านเศรษฐศาสตร์ …

การฟื้นฟูสภาพพื้นที่ขุด ตัก และดูดทรายแม่น้ Read More »

ลักษณะและชนิดของทราย

[:TH] ลักษณะและชนิดของทราย การศึกษาลักษณะของทรายในทางธรณีวิทยา คือ การศึกษาถึงรูปร่างของเม็ดทราย อันได้แก่ รูปทรง (Shape) ต่างๆ เช่น เม็ดทรายที่มีทรงกลม ทรงรี สามารถแสดงถึงรูปแบบการแตกออกมาจากหินแม่ที่เป็นแหล่งกำเนิด ตลอดจนการศึกษาถึงความแข็งแรงของเม็ดทรายว่าแตกออกมาจากแนวแกนใดของผลึกดั้งเดิม รวมทั้ง การศึกษาถึงความมน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเดินทางของเม็ดทรายว่าใกล้หรือไกลจากแหล่งกำเนิด เม็ดทรายที่มีความมนสูงแสดงว่าถูกพัดพามาไกลกว่าเม็ดทรายที่มีความมนต่ำหรือมีความเป็นเหลี่ยมเป็นมุมสูง ขนาดของเม็ดทรายที่เกิดอยู่รวมกันเป็นตัวชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมของน้ำ การไหลของน้ำและปริมาณของน้ำในคราวหนึ่งๆ เช่น หากเม็ดทรายมีการคัดขนาดดีหรือมีขนาดเม็ดใกล้เคียงกันแสดงว่าน้ำมีความเร็วสม่ำเสมอ ทำให้เม็ดทรายที่มีขนาดแตกต่างกันแยกตัวออกจากกันและไปตกตะกอนในที่ต่างๆ อีกทั้งยังทำให้ทราบถึงสภาพความลาดชันของพื้นที่ หากการจัดขนาดของทรายไม่ดีแสดงว่าน้ำมีความเร็วของการไหลไม่สม่ำเสมอ หรือพื้นที่บริเวณนั้นมีความลาดชันที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและมีหลายทิศทาง การแบ่งชนิดของทราย อาจแบ่งออกได้หลายแบบ เช่น แบ่งตามแหล่งกำเนิดทางเคมี การรวมตัวของแร่ธาตุ ธรณีวิทยา ภูมิศาสตร์ หรือแบ่งโดยการใช้ประโยชน์ ขนาดของเม็ดทราย เป็นต้น การศึกษาทั้งขนาดและส่วนประกอบของทรายที่สะสมตัวอยู่ในบริเวณนั้นๆ เช่น ชนิดของทรายก่อสร้างสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ชนิด ได้แก่ ทรายหยาบมาก ทรายหยาบ ทรายขนาดปานกลาง ทรายละเอียด และทรายละเอียดมาก เป็นต้น สำหรับส่วนประกอบของทรายทางธรณีวิทยา สามารถศึกษาได้จากส่วนประกอบของแร่ที่ผสมอยู่ในแหล่งทรายนั้นๆ ถึงแม้ว่าส่วนประกอบหลักของทราย คือ แร่ควอร์ต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นซิลิกา แต่อาจพบแร่ชนิดอื่นผสมมากบ้างน้อยบ้าง …

ลักษณะและชนิดของทราย Read More »

หน้าที่ของน้ำมันเครื่อง

[:TH] หน้าที่ของน้ำมันเครื่อง หน้าที่ในการหล่อลื่น หน้าที่นี้คือหน้าที่หลักเลยนะครับ โดนน้ำมันหล่อลื่นจะเคลือบชิ้นส่วนโลหะในเครื่องยนต์ในลักษณะเป็นฟิล์มเคลือบอยู่ที่ผิวโลหะเพื่อช่วยลดการสัมผัสกันโดยตรงของชิ้นส่วนโลหะ โดยความหนาของฟิล์มนั้นขึ้นอยู่กับความหนืดของน้ำมันเครื่อง หน้าที่ในการระบายความร้อน ในช่วงที่เครื่องยนต์กำลังทำงานนั้นจะเกิดความร้อนขึ้นบริเวณ รอบๆฝาสูบ รอบๆกระบอกสูบ ลูกสูบ ข้อเหวี่ยงและ ชิ้นส่วนภายในต่างๆ ปั๊มน้ำมันเครื่องจะส่งน้ำมันเครื่องไปหล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ เมื่อน้ำมันเครื่องไหลกลับก็จะพาเอาความร้อนกลับลงไปสู่อ่างน้ำมันเครื่องด้วย จึงเป็นการระบายความร้อนให้ชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์อีกทางหนึ่ง หน้าที่ในการป้องกันสนิมและการกัดกร่อน การเผาไหม้ในเครื่องยนต์จะทำให้เกิดความชื้นและไอน้ำ เป็นสาเหตุให้เกิดสนิมกับชิ้นส่วนต่างๆ ขณะเดียวกันการเผาไหม้เชื้อเพลิงก็ทำให้เกิดกรดกำมะถัน ซึ่งสามารถกัดกร่อนชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ให้สึกหรอได้ น้ำมันเครื่องมีหน้าที่ทำให้ไอน้ำและกรดกำมะถันเจือจางลงซึ่งช่วยป้องกันสนิมและการกัดกร่อนได้ หน้าที่ในการป้องกันการรั่วของกำลังอัด น้ำมันเครื่องที่มีลักษณะเป็นฟิล์มจะช่วยเคลือบผนังกระบอกสูบ เพื่อทำหน้าที่ป้องกันการรั่วของกำลังอัดภายในกระบอกสูบ ที่จะไหลผ่านระหว่างแหวนลูกสูบและกระบอกสูบลงสู่ห้องแคร้งของเครื่องยนต์ หน้าที่ในการทำความสะอาด การเผาไหม้ในเครื่องยนต์จะทำให้เกิดเขม่าและผงโลหะ ซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดตันภายในชิ้นส่วนเครื่องยนต์ได้ เพราะฉะนั้นน้ำมันเครื่องมีหน้าที่ชะล้างเขม่าและป้องกันการรวมตัวกันของผงโลหะที่อาจทำให้เกิดการอุดตันได้ วิธีเลือกน้ำมันเครื่อง เลือกจากชนิดของน้ำมันเครื่อง คือการเลือกโดยดูจากพื้นฐานของน้ำมันเครื่องว่าเป็นชนิดไหน ซึ่งจะมีผลกับอายุการใช้งานของน้ำมันเครื่องโดยส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น 3 ชนิดนะครับ 1.1 น้ำมันเครื่องชนิดธรรมดา 1.2 น้ำมันเครื่องชนิดกึ่งสังเคราะห์ 1.3. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ โดยข้อแตกต่างของน้ำมันเครื่องทั้งสามชนิดนี้ก็คือโครงสร้างของโมเลกุลในตัวน้ำมันเครื่องที่มีการยึดตัวเกาะกัน โดยการยึดตัวของอะตอมที่ต่างกันทำให้น้ำมันเครื่องสามารถคงความหนืดและลักษณะการเป็นฟิล์มได้นานต่างกัน สรุปง่ายๆว่าข้อแตกต่างของน้ำมันเครื่องทั้งสามชนิดก็คือระยะเวลาในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องนั่นเอง ระยะทางของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแต่ละชนิด น้ำมันเครื่องชนิดธรรมดา ประมาณ 4000 กิโลเมตร น้ำมันเครื่องชนิดกึ่งสังเคราะห์ ประมาณ 6000 กิโลเมตร น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ …

หน้าที่ของน้ำมันเครื่อง Read More »

[:TH]ความรู้เกี่ยวกับจาระบี[:]

[:TH]จาระบี จาระบี คือน้ำมัน (70-95%) ผสมกับสารอุ้มน้ำมัน (5-30%) สารอุ้มน้ำมันจะคล้ายฟองน้ำที่อุ้มน้ำมันไว้ ซึ่งส่วนมากผลิตจากไขสบู่โลหะ (สบู่ที่ผสมลงไปจะทำให้จาระบีมีความข้นเหนียว มีคุณสมบัติกึ่งแข็งกึ่งเหลว ช่วยอุ้มและจับเกาะน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน และสารเพิ่มคุณภาพทางเคมีทำให้ไม่ไหลเยิ้มออกมาในขณะใช้งาน ความแตกต่างของจาระบีแต่ละชนิดขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของสบู่ที่ผสม) สารอุ้มน้ำมันที่มักใช้โดยทั่วไปมีอยู่ 3 ประเภทได้แก่ 1.ลิเธียม (ให้การใช้งานที่ช่วงอุณหภูมิกว้าง) 2.แคล-เซียม (ทนน้ำได้ดี แต่มีอุณหภูมิทำงานสูงสุดที่ 60 °C) 3.โซเดียม (มีคุณสมบัติการซีลที่ดี แต่ห้ามโดนน้ำ) สารเพิ่มคุณภาพพิเศษ เช่น สารป้องกันสนิม สารป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น สารรับแรงกดสูง และสารป้องกันการสึกหรอ สามารถเติมเพื่อเพิ่มคุณสมบัติตามต้องการได้ น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานที่ใช้ทำจาระบีมักเป็นพวกที่มีดัชนีความหนืดสูง เพื่อให้สามารถใช้ได้ทั้งอุณหภูมิสูงและต่ำในบางที่ที่ไม่สามารถใช้น้ำมันหล่อลื่นได้ เช่น แบริ่งหรือลูกปืนบางชนิด ลูกหมากปีกนก คันชักคันส่ง หูแหนบ ฯลฯ เพราะอาจเกิดปัญหาเรื่องการรั่วไหล ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกแทรกเข้าไปเจือปน ฯลฯ ทำให้การหล่อลื่นไม่ได้ผล จึงจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์หล่อลื่นอื่นที่มีสภาพความคงตัว มีคุณสมบัติในการจับติดขึ้นส่วนที่ต้องการได้ดีกว่าน้ำมันหล่อลื่น ซึ่งก็คือ จาระบี ในการเลือกใช้จาระบี คุณสมบัติโดยทั่วไปที่ต้องคำนึงถึงได้แก่ ความแข็งอ่อนของจาระบี ความอ่อนหรือแข็งของจาระบี วัดโดยปล่อยให้เครื่องมือรูปกรวยปลายแหลมจมลงในเนื้อจาระบีที่อุณหภูมิ 25 …

[:TH]ความรู้เกี่ยวกับจาระบี[:] Read More »

[:TH]ขับรถให้ประหยัดน้ำมันด้วย 7 วิธีง่ายๆ[:]

[:TH]ขับรถให้ประหยัดน้ำมันด้วย 7 วิธีง่ายๆ เศรษฐกิจตอนนี้ยังไม่พื้นตัว ทำให้ราคาน้ำมันยังคงแพงอยู่ทำให้ทางค่ายรถยนต์ต่างๆ หันออกมาผลิตรถยนต์ประหยัดน้ำมัน แต่อย่างไรก็ตามถึงจะขับรถประหยัดน้ำมันหากไม่รู้จักวิธีขับที่ถูกต้องก็จะสิ้นเปลืองเทียบเท่ากับรถธรรมดาทั่วไปได้เหมือนกันครับ คราวนี้มาดูหลักการขับรถให้ประหยัดน้ำมันกันดีกว่า ควรมีการวางแผนเดินทางที่ดี หลีกเลี่ยงเส้นทาง ที่มีการจราจรติดขัด, ไม่ขับรถอ้อมจนเกินไป ไม่หลงทาง และไม่ขับเลยจากจุดหมายปลายทาง เท่านี้ก็ลดการสูญเสียน้ำมันโดยเปล่าประโยชน์ไปได้ มากแล้วครับ ตรวจเช็คความดันลมยางเสมอๆ ยาง ที่มีลมอ่อน เกินไปจะทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น และยางมีอายุการใช้งานสั้น ในขณะเดียวกันหากลมยางแข็งเกินไป รถอาจเกาะถนนไม่ดี และยางก็มีอายุการใช้งานสั้นเช่นกัน ตรวจเช็คเครื่องปรับอากาศอยู่เสมอๆ เช่น ปริมาณน้ำยาทำความเย็น ความสกปรกของคอยล์ร้อนคอยล์เย็น และไส้กรอง ฯลฯ เพื่อให้ระบบทำงานมี ประสิทธิภาพพร้อมทั้งปรับอุณหภูมิให้พอเหมาะ เพราะถ้าปรับอุณหภูมิต่ำเกินไปคอมเพรสเซอร์ก็จะทำงานหนัก มากขึ้น เป็นภาระให้เครื่องยนต์มากขึ้น ส่งผลให้อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงก็มากขึ้นไปด้วย วิธีขับรถให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง 4.1 ไม่เร่งเครื่องขณะรถจอดอยู่นิ่ง ๆ เพราะเป็นการ ใช้น้ำมันโดยเปล่าประโยชน์ 4.2 ออกรถอย่างราบเรียบ ไม่ใช่ออกตัวแบบรถแข่ง และเปลี่ยนเกียร์ที่สูงขึ้นเมื่อถึงรอบที่กำหนด อย่าลากเกียร์ 4.3 พยายามขับรถด้วยความเร็วสม่ำเสมอ และไม่เหยียบ เบรกโดยไม่จำเป็น 4.4 เมื่อขับรถที่ความเร็วสูงขึ้น แรงต้านอากาศมีผล เป็นทวีคูณ …

[:TH]ขับรถให้ประหยัดน้ำมันด้วย 7 วิธีง่ายๆ[:] Read More »

[:TH]วิธีการบำรุงรักษาระบบ ไฮดรอลิค [:]

[:TH]วิธีการบำรุงรักษาระบบ ไฮดรอลิค เนื่องจากสิ่งสกปรกที่เป็นอนุภาคของแข็ง ไม่ว่าจะเป็นเศษโลหะ ชิ้นส่วน เศษผง ตลอดจนความชื้นและอากาศ ที่เล็ดลอดเข้าไปปะปนใน น้ำมันไฮดรอลิค สามารถก่อให้เกิดการสึกหรอและการสีกกร่อนของ ปั๊มไฮดรอลิค ซึ่งเป็นสาเหตุที่มักพบอยู่บ่อยๆ ดังนั้นจึงควรระมัดระวังอย่างสม่ำเสมอในเรื่อง ความสะอาดของ น้ำมันไฮดรอลิค ฟลัชล้างทำความสะอาดระบบด้วย น้ำมันไฮดรอลิค ระบบไฮดรอลิคใหม่หรือหลังจากมีการถอดซ่อมบำรุงรักษา อาจมีสี โลหะ สนิม ตลอดจนฝุ่นและทราย ที่ติดค้างอยู่ในระบบ ควรระมัดระวังในเรื่องเกี่ยวกับ ความสะอาดของ น้ำมัน โดยดูแลภาชนะ ปั๊มดูด ถังเก็บ ให้สะอาดอยู่เสมอ นอกจากนี้ต้องหมั่นทำความสะอาด ระบบกรองน้ำมัน หรือเมื่อเปลี่ยนไส้กรองชำรุด เมื่อล้างไส้กรองควรสังเกตดูสิ่งสกปรก ที่ติดอยู่ตามไส้กรองว่าเป็นอะไร หากมีเศษโลหะมาก แสดงว่าระบบมีการสึกหรอชนิดของสิ่งสกปรก อาจใช้เป็นแนวทางในการวิเคราะห์หาสาเหตุของการชำรุดสึกหรอ และจะได้เป็นแนวทางในการป้องกันต่อไป หมั่นตรวจตราการทำงานของระบบไฮดรอลิค ตลอดจนเสียงที่ดังผิดปกติ ซึ่งอาจบ่งบอกถึงอาการที่มีการรั่วของอากาศตามข้อต่อ หรือซีล หรือการเกิดโพรงอากาศในเรือนปั๊ม ปัญหาที่มักพบในระบบไฮดรอลิค ระบบไฮดรอลิคจะสามารถทำงานได้อย่างมีระสิทธิภาพก็ต่อเมื่อตัวปั๊มอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ดังนั้นปั๊มจึงเป็นหัวใจสำคัญของระบบไฮดรอลิคและเป็นส่วนที่มีโอกาสสึกหรอได้ง่าย ผู้ใช้จึงควรคำนึงถึงปัจจัยที่มีผลต่ออายุของปั๊มดังนี้ ชนิดของน้ำมันไฮดรอลิค เลือกใช้น้ำมันไฮดรอลิคให้เหมาะกับชนิดและการออกแบบของปั๊มไฮดรอลิค เช่นจะต้องไม่ทำปฏิกิริยาหรือกัดกร่อนชิ้นส่วนหรือซีล น้ำมันไฮดรอลิคที่ผสมสารป้องกันการสึกหรอประเภทสังกะสี (ZDTP-Zinc Dithophosphate) ไม่เหมาะกับปั๊มที่มีชิ้นส่วนที่ทำด้วยโลหะเงินและทองบรอนซ์บางประเภท เพราะจะเกิดการกัดกร่อนเป็นต้น …

[:TH]วิธีการบำรุงรักษาระบบ ไฮดรอลิค [:] Read More »

ท่าทรายกนก