การกำเนิดของแหล่งทราย

[:TH]กำเนิดของแหล่งทราย

ทราย (Sand) ในทางธรณีวิทยาถูกจัดให้เป็นตะกอน (Sediments) ชนิดหนึ่งมีลักษณะร่วนหรือยังไม่แข็งตัวเป็นหิน เกิดจากการผุพังของหินต้นกำเนิดที่มักมีแร่ควอร์ตเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ เช่น หินแกรนิตหรือตระกูลแกรนิต หินทราย และหินกรวดมน เป็นต้น หินแกรนิตนอกจากมีแร่ควอร์ตเป็นองค์ประกอบแล้ว ยังมีแร่เฟลด์สปาร์เกิดร่วมอยู่ด้วย แต่แร่ทั้งสองนี้มีอัตราการผุผังที่แตกต่างกันมาก คือ ในกรณีที่มีน้ำเป็นตัวกลาง แร่เฟล์สปาร์ ซึ่งทำปฎิกิริยากับน้ำกลายเป็นแร่ดิน ที่มีโครงสร้างเป็นแผ่นและหลุดลอยไปกับน้ำได้ง่าย ส่วนแร่ควอร์ตซ์ซึ่งไม่ทำปฏิกิริยากับน้ำ ก็จะหลุดจากการจับตัวและสะสมอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เกิดเป็นกรวดและทรายที่มีรูปแบบการสะสมตัวแบบตะกอนน้ำพัดพารูปพัดใกล้เชิงเขา ส่วนหินทรายและหินกรวดมน ในอดีตเป็นทรายที่ถูกทำให้แข็งตัวด้วยวัตถุประสาน และเมื่อวัตถุประสานถูกทำลาย ทำให้เม็ดทรายหลุดออกจากกันและตกสะสมในบริเวณใกล้เคียง ต่อมาทรายและกรวดเหล่านี้จะถูกน้ำพัดพาทำให้ไกลออกเป็นจากแหล่งกำเนิดเดิม โดยอนุภาคที่มีขนาดเล็กที่สุดจะถูกพัดพาไปได้ไกลที่สุด เช่น กรวดจะยังคงอยู่ที่เดิมหรือพัดพาไปไม่ไกลจากที่เดิมมากนัก ทรายหยาบมักสะสมตัวอยู่ตอนบนสุดของสายน้ำ ส่วนปลายแม่น้ำมักเป็นทรายละเอียด ลักษณะทรายที่มีการสะสมเช่นนี้เป็นการสะสมตามแม่น้ำ (Fluvial Deposit) ส่วนทรายที่มีขนาดเล็กลงไปอีกจะถูกพัดพาลงทะเล และถูกกระบวนการของน้ำทะเล เช่น การไหลของกระแสน้ำหรือคลื่น พัดพาทรายมาสะสมตัวตามชายฝั่งและนอกชายฝั่งออกไปกลายเป็นทรายตามชายฝั่ง (Beach Sand) และทรายนอกชายฝั่ง (Off Shore Sand)

New Zealand, North Island, Northland, Te Paki Sanddunes

cr : http://www.onep.go.th/[:en]กำเนิดของแหล่งทราย

ทราย (Sand) ในทางธรณีวิทยาถูกจัดให้เป็นตะกอน (Sediments) ชนิดหนึ่งมีลักษณะร่วนหรือยังไม่แข็งตัวเป็นหิน เกิดจากการผุพังของหินต้นกำเนิดที่มักมีแร่ควอร์ตเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ เช่น หินแกรนิตหรือตระกูลแกรนิต หินทราย และหินกรวดมน เป็นต้น หินแกรนิตนอกจากมีแร่ควอร์ตเป็นองค์ประกอบแล้ว ยังมีแร่เฟลด์สปาร์เกิดร่วมอยู่ด้วย แต่แร่ทั้งสองนี้มีอัตราการผุผังที่แตกต่างกันมาก คือ ในกรณีที่มีน้ำเป็นตัวกลาง แร่เฟล์สปาร์ ซึ่งทำปฎิกิริยากับน้ำกลายเป็นแร่ดิน ที่มีโครงสร้างเป็นแผ่นและหลุดลอยไปกับน้ำได้ง่าย ส่วนแร่ควอร์ตซ์ซึ่งไม่ทำปฏิกิริยากับน้ำ ก็จะหลุดจากการจับตัวและสะสมอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เกิดเป็นกรวดและทรายที่มีรูปแบบการสะสมตัวแบบตะกอนน้ำพัดพารูปพัดใกล้เชิงเขา ส่วนหินทรายและหินกรวดมน ในอดีตเป็นทรายที่ถูกทำให้แข็งตัวด้วยวัตถุประสาน และเมื่อวัตถุประสานถูกทำลาย ทำให้เม็ดทรายหลุดออกจากกันและตกสะสมในบริเวณใกล้เคียง ต่อมาทรายและกรวดเหล่านี้จะถูกน้ำพัดพาทำให้ไกลออกเป็นจากแหล่งกำเนิดเดิม โดยอนุภาคที่มีขนาดเล็กที่สุดจะถูกพัดพาไปได้ไกลที่สุด เช่น กรวดจะยังคงอยู่ที่เดิมหรือพัดพาไปไม่ไกลจากที่เดิมมากนัก ทรายหยาบมักสะสมตัวอยู่ตอนบนสุดของสายน้ำ ส่วนปลายแม่น้ำมักเป็นทรายละเอียด ลักษณะทรายที่มีการสะสมเช่นนี้เป็นการสะสมตามแม่น้ำ (Fluvial Deposit) ส่วนทรายที่มีขนาดเล็กลงไปอีกจะถูกพัดพาลงทะเล และถูกกระบวนการของน้ำทะเล เช่น การไหลของกระแสน้ำหรือคลื่น พัดพาทรายมาสะสมตัวตามชายฝั่งและนอกชายฝั่งออกไปกลายเป็นทรายตามชายฝั่ง (Beach Sand) และทรายนอกชายฝั่ง (Off Shore Sand)

New Zealand, North Island, Northland, Te Paki Sanddunes

[:]

ท่าทรายกนก